ไขมันอุดตันในเส้นเลือดมีอาการอย่างไร
สาเหตุ
โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดจะเกิดขึ้น เมื่อมีการสะสมของไขมันหรือเส้นใยสะสม และก่อตัวเป็นแผ่นไขมันที่ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ แผ่นไขมันที่ก่อตัวขึ้นทำให้หลอดเลือดแดงแคบลงและอาจลดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ เช่น หัวใจและสมองทำให้มีอาการ เช่น คออักเสบ หรือภาวะขาดโลหิตเนื่องจากการอุดตันของทางเดินโลหิตฉับพลัน นอกจากนี้แผ่นไขมันยังสามารถแตกออกได้ทำให้ปิดกั้นกระแสโลหิตทั้งหมดแบบฉับพลัน หากเกิดในหัวใจจะทำให้เป็นโรคหัวใจวาย และหากเกิดในสมองจะทำให้เป็นโรคเส้นโลหิตในสมองอุดตัน ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจาก
1. กรรมพันธุ์
2. ที่รับประทานอาหารพวกแป้งมากเกินไป
3. อ้วน หรือน้ำหนักเกิน
4. การขาดการออกกำลังกาย
5. เพศ/อายุ
6. ดื่มสุรามาก
7. ความเครียด
8. ยาบางชนิด เช่น ยาฮอร์โมนsteroid
9. โรคบางอย่างมักจะร่มกับภาวะไขมันสูงได้แก่ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต ต่อมธัยรอยด์ ทำงานน้อย
อาการ
สังเกตง่ายๆบางคนมีอาการคล้ายเป็นโรคหัวใจเช่น เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก บางคนเป็นจนรู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะก็มี อันตรายมากนะคะวิธีการรักษาก็มีหลายวิธีตามอาการไป คนส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตจะเป็นแบบเฉียบพลัน คือแสดงอาการและไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทันเพราะไม่คิดว่าจะเป็นอาการของโรคนี้ เพราะบางคนจะมีการจุกแน่นที่ลิ้นปี่คล้ายอาการของโรคกระเพาะ
ยารักษา
1. รักษาโดยใช้ยา
เป็นวิธีการรักษาหลักในรายที่เป็นไม่มาก หรือช่วยลดอาการแน่นหน้าอกหรือเหนื่อยหอบ อาจใช้เป็นวิธีการรักษาเดี่ยวๆ หรือใช้ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีอื่น
- ยาลดไขมันในเลือด ในรายที่มีระดับไขมันในเลือดสูงร่วมด้วย
- ยากลุ่ม ACEI(=Angiotensin converting enzyme inhibitors)จะมีประโยชน์ในรายที่เป็นกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือในราย กล้ามเนื้อหัวใจตายที่มีการบีบตัวของหัวใจลดลงน้อยกว่า 40%
2. รักษาโดยการสวนหัวใจทำบอลลูนขยายเส้นเลือด
- ไม่สามารถทำได้ทุกราย
- ทำได้เฉพาะในรายที่เส้นเลือดมีการตีบเฉพาะจุดอย่างชัดเจน และควรตีบมากกว่า 50% ขึ้นไป
- มักทำในรายที่มีเส้นเลือดหัวใจตีบ 1-2 เส้น(ถ้าตีบ 3 เส้นการผ่าตัดจะได้ผลดีกว่า)
- ไม่ควรทำในรายที่มีความเสี่ยงสูง เช่น กรณีเส้นเลือดตีบที่บริเวณโคนของเส้นเลือดแดงโคโรนารี่ด้านซ้าย
การใส่ขดลวดพร้อมกับการทำบอลลูน(Stenting) ในปัจจุบันมักใส่ stent ร่วมด้วย ในรายที่ต้องทำบอลลูน เพื่อลดอัตราการเกิดตีบซ้ำ ของเส้นเลือด หลังทำบอลลูน จากการศึกษาพบว่า
ถ้าทำบอลลูนโดยไม่ใส่ stent จะมีอัตราการตีบซ้ำของเส้นเลือด 30-40%
ถ้าทำบอลลูนพร้อมกับใส่ stentแบบธรรมดา จะมีอัตราการตีบซ้ำของเส้นเลือด 20-30%
ถ้าทำบอลลูนพร้อมกับใส่ stent แบบเคลือบยาต้านการตีบเส้นเลือด(drug eluting stent) จะมีอัตราการตีบซ้ำของเส้นเลือด <10%
3. การผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเลือด
ใช้เส้นเลือดบริเวณ แขนทั้งสองข้าง ขาทั้งสองข้าง แล้วนำเส้นเลือดนั้นมาใช้เปลี่ยนบริเวณหัวใจแทนเส้นเลือดเดิมที่มีไขมันอุดตัน ดังนั้นคุณจะมีแผลเป็นรอยกรีดยาวบริเวณแขนด้านในจากข้อมือถึงข้อศอก ทั้งสองแขน ขาบริเวณ หัวเข่าด้านในถึงหว่างขาใกล้อวัยวะเพศทั้งสองข้าง และบริเวณหน้าอกจากคอลงมาถึงใต้ราวนม
จากนั้นต้องพักรักษาตัวอีกเกือบเดือน คุณจะมีความรู้สึกว่าได้เกิดใหม่ อาการที่ตามมา ก็คือ คุณจะรู้สึกชาบริเวณแผลเป็นในบางครั้ง เพราะเส้นเลือดขาดหายไป ทำให้คุณต้องคอยนวดเนื้อบริเวณนั้นบ่อยๆ ยาก็ต้องกิน ที่สำคัญอาหารเค็มต้องงด เพราะหัวใจจะทำงานหนักมาก
ที่มา http://www.thaipharmacies.org/knowledge/disease/217-blood-vessels.html
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ฉี่ไม่ออกเกิดจากอะไรกันเเน่ ผมก็เคยเป็นนะครับ ฉี่ไม่ออกในกรณีผมนี่คืออักเสบครับคือกลั้นบ่อยครับ ทางออกเลยนะครับ ถ้าใครกลั้นบ่อยปวดมากเเละไ...
-
จุกเสียดแน่นท้องมีวิธีการรักษาอย่างไร หลายท่านคงเคยเกิดอาการไม่สบายท้อง จุกเสียด รู้สึกแน่นท้องกันมาบ้าง ตำแหน่งที่เกิดอาการคือ ...
-
การรักษาริดสีดวงลำไส้วิธีที่ง่ายกว่าเเผลหายเร็วกว่า พูดถึงริดสีดวงเนี่ยเป็นอะไรทีรักษาได้ทรมานมากครับ สมัยก่อนอะนะเพราะเเหม ไม่อยากเล่...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น