บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556

ฉี่ไม่ออกเกิดจากอะไรกันเเน่

ฉี่ไม่ออกเกิดจากอะไรกันเเน่

ผมก็เคยเป็นนะครับ ฉี่ไม่ออกในกรณีผมนี่คืออักเสบครับคือกลั้นบ่อยครับ ทางออกเลยนะครับ ถ้าใครกลั้นบ่อยปวดมากเเละไม่ออกเนี่ยเอาฝักบัวฉีดปลายครับ เเล้วเดี๋ยวมันจะออกเองครับ ลองมาเเล้วครับ ต้องมีนำล่อง เเต่ของผู้หญิงไม่รู้ครับ

บทความน่าสน


คุณที่เคยปัสสาวะไม่ออกบ้างไหม? หากเคยละก็ คุณย่อมจะรู้ดีว่า มันทรมานมากเพียงไร... จริงๆแล้ว...ผู้หญิงกับโรคระบบทางเดินปัสสาวะนั้น สัมพันธ์กันมาก ผู้หญิงจึงมักมีอาการอันเกี่ยวเนื่องกับภาวะปัสสาวะไม่ออกบ่อยๆ...ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ แต่..ก็มีหลายโรค ที่ทำให้ปัสสาวะไม่ออกอย่างกระทันหันได้ อาทิ กรณีเนื้องอกมดลูก (Myoma) ขนาดราวๆผลส้ม ที่ไปอุดในอุ้งเชิงกราน เบียดส่วนคอท่อปัสสาวะ จนฉี่ไม่ออก เป็นต้น

เมื่อหลายเดือนก่อน คุณยายสุภัทรา อายุ 76 ปี มาโรงพยาบาลตำรวจ ด้วยเรื่องมีก้อนโผล่ออกมาจากช่องคลอด ร่วมกับภาวะปัสสาวะไม่ออก 2 สัปดาห์ก่อนมาโรงพยาบาล ข้าพเจ้าตรวจภายในดูแล้ว ปรากฏว่า คุณยายสุภัทราเป็นโรคกระบังลมหย่อน (Procedentia uteri) แต่..เนื่องจากคุณยาย มีโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน (Hypertension & D.M.) ทำให้การผ่าตัดต้องเลื่อนออกไป จนควบคุมภาวะดังกล่าวได้ ประกอบกับ ในช่วงนั้นเป็นช่วงเกิดมหาอุทกภัยถล่มภาคกลางของประเทศไทยครั้ง

ประวัติศาสตร์ คุณยายจึงต้องทนทุกข์ทรมานกับการใส่คาสายสวนปัสสาวะ (Retained Foley’s catheter) อยู่นานถึง 4 เดือน เพื่อลดอาการคั่งของปัสสาวะ ซึ่ง..ขณะเข้ารับการผ่าตัด ข้าพเจ้ายังไม่แน่ใจเลยว่า คุณยายสุภัทราจะปัสสาวะได้สะดวกสบายเหมือนเดิม โดยไม่จำเป็นต้องใส่สายสวนปัสสาวะ

ที่ห้องผ่าตัด การผ่าตัดเป็นไปอย่างเรียบร้อย ข้าพเจ้าตัดมดลูกที่ยื่นพ้นออกมาจากช่องคลอด โดยการขวั้นรอบๆปากมดลูกก่อน จากนั้น ก็ดันแยกชั้นผิว Mucosa ของช่องคลอดให้ออกจากเนื้อเยื่อส่วนล่าง แล้วใช้เครื่องจี้ ปิดเส้นเลือดอย่างดี (EBBE seal coagulation) จี้ตัดมดลูกทีละข้างจนมดลูกหลุดออกมา จากนั้น ข้าพเจ้าก็ผ่าตัดตกแต่งภายใน (A – P repair) ให้ด้วย เพื่อให้ช่องคลอดกระชับ กระเพาะปัสสาวะจะได้ไม่ดันให้หย่อนลงมาอีก คุณยายสุภัทราใส่สายสวนปัสสาวะต่อหลังผ่าตัด 5 วัน ก็ถอดออกและปัสสาวะได้ตามปกติ ช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก เพราะเธอฉี่ไม่ออกและคาสายสวนปัสสาวะมานานกว่า 4 เดือน แล้วจู่ๆ ก็เดินเหินได้ดี ปัสสาวะคล่องแคล่ว มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ

2 - 3 วันก่อน คุณยายสุภัทรามาตรวจหลังผ่าตัด 6 สัปดาห์ ท่านดูสดชื่นมาก และพูดจาล้อเล่นกับข้าพเจ้าตลอดเวลา แล้วยังถามว่า ‘คุณหมอไม่ได้ผ่าตัดเองหรือ?’ ข้าพเจ้าตอบว่า ‘อ้าว! ทำไม พูดอย่างนั้นหละ’ คุณยายตอบว่า ‘ก็ได้ยินเสียงคุณหมอแป๊บเดียว ตอนแรกๆ จากนั้น ก็ไม่ได้ยินอีกเลย’ ข้าพเจ้ายืนยันกับ่านอีกครั้งว่า ‘ผ่าตัดเองทั้งหมด ทั้งยังตกแต่งภายในให้กระชับด้วย ไม่อย่างนั้น คุณยายจะไปไหนมาไหนสะดวกเช่นนี้หรือ’ ตอนนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจมากจริงๆ ที่เห็นท่านกลับมาใช้วิถีชีวิตดังเดิมได้อีกครั้ง

นอกจากกรณีของคุณยายสุภัทราแล้ว กรณีของคุณสุพรรณี ยิ่งน่าอัศจรรย์ใหญ่ คุณสุพรรณี อายุ 48 ปี มีบุตร 3 คน บุตรคนสุดท้องอายุ 11 ขวบ เธอมาโรงพยาบาลตำรวจ ด้วยเรื่องปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง ราวๆปลายเดือนตุลาคม 2554 ซึ่ง...เป็นช่วงที่กำลังเกิดมหาอุทกภัย น้ำไหล่บ่าทะลัก เข้าท่วมกรุงเทพมหานครชั้นนอก แบบไม่ปรานี ปราศัย


คุณสุพรรณีให้ประวัติว่า ‘ปวดท้องน้อย และฉี่ออกแบบกะปิดกะปรอยมา 4 วัน ก่อนมาโรงพยาบาล’ ก่อนหน้านั้น คุณสุพรรณีได้ไปเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลในเครือประกันสังคม ก็ได้รับยาแก้อักเสบมารับประทาน พร้อมกับคำวินิจฉัยว่า ‘ทางเดินปัสสาวะอักเสบ’ วันที่คุณสุพรรณีมาโรงพยาบาลตำรวจ ข้าพเจ้ายังจำได้ดี ตอนแรก คุณสุพรรณีขอตรวจภายในกับคุณหมอผู้หญิง ซึ่งคุณหมอได้ขอให้คุณสุพรรณีไปตรวจปัสสาวะก่อนพบแพทย์ ต่อมา เวลาประมาณ 11 นาฬิกา สูตินรีแพทย์หญิงท่านนั้น ไปทำกิจธุระส่วนตัว ยังไม่กลับมา คุณสุพรรณีมีอาการปวดท้องน้อยจนแทบจะเป็นลม และทนไม่ไหวแล้ว เนื่องจากเธอรอมานานมาก หลังจากได้ไปเก็บปัสสาวะส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตอนนั้น เธออดรนทนไม่ได้ จึงบอกกับพยาบาล

ขอให้คุณหมอท่านใดช่วยตรวจภายในให้ก่อน พอข้าพเจ้าเห็นหน้าคุณสุพรรณี ข้าพเจ้าก็รีบบอกให้คุณสุพรรณีเข้ารับการตรวจภายใน.....และทันที ที่เห็นหน้าท้องของคุณสุพรรณี ข้าพเจ้าก็ต้องขอให้เธอรีบเปลี่ยนเป็นเข้ารับการตรวจอัลตราซาวนด์แทน เพราะหน้าท้องของเธอโป่งนูนสูงใหญ่ ราวกับคนท้อง 9 เดือน... พอวางหัวตรวจอัลตราซาวนด์กดลงบนหน้าท้องของคนไข้ ข้าพเจ้าก็ต้องตกใจ เพราะภายในกระเพาะปัสสาวะของเธอ เต็มไปด้วยปัสสาวะ คาดว่า มีปริมาณ ไม่น่าจะต่ำกว่า 2 ลิตร ข้าพเจ้ารีบบอกให้นักศึกษาแพทย์ฝึกหัดรีบสวนปัสสาวะทิ้งให้กับคนไข้ทันที ปรากฏว่า นักศึกษาแพทย์ฝึกหัดสวนปัสสาวะได้ถึง 2500 ซี.ซี. (มิลลิลิตร)

หลังจากนั้น ข้าพเจ้าได้สอบถามคุณสุพรรณีว่า ‘เธอทนต่อการปวดฉี่ ได้ยังไง? เพราะเมื่อฉี่เต็มกระเพาะปัสสาวะ จะเกิดภาวะหนึ่งที่เรียกว่า Vago – vagal reflex ซึ่งเป็นกลไกของระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้คนไข้ช็อคได้’ คุณสุพรรณีบอกว่า ‘หนูก็พยายามทน พอมาพบคุณหมอผู้หญิง คุณหมอคิดว่า หนูเป็นทางเดินปัสสาวะอักเสบเหมือนที่โรงพยาบาลประกันสังคม จึงให้ไปตรวจปัสสาวะมาก่อน แล้วค่อยมาตรวจภายในทีหลัง นี่!!! ยังโชคดีที่เจอคุณหมอเสรี จึงได้ตรวจภายในเลย หากช้ากว่านี้อีกไม่กี่นาที คิดว่า หนูคงจะเป็นลมหรือช็อคหมดสติไปแล้ว เพราะทนแทบไม่ไหวเลย’ ข้าพเจ้าขอให้คุณสุพรรณีนอนพักรักษาตัวที่หอผู้ป่วย โดยคาสายสวนปัสสาวะแบบตลอดเวลา (Continuous) โดยให้ยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดการอักเสบในกระเพาะปัสสาวะ และยาเพิ่มการหดรัดตัวของกระเพาะปัสสาวะด้วย เป็นเวลา 5 วัน หลังจากนั้น ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ ค่อยนัดมาตัดเอามดลูกออก

ที่ไหนได้!!! พอออกจากโรงพยาบาลไป.. ถัดจากนั้นเพียง 4 วัน คุณสุพรรณีเกิดภาวะปัสสาวะไม่ออกอีก จึงต้องมาเข้าห้องตรวจฉุกเฉินกลางดึกของคืนวันหนึ่ง มีปัสสาวะคั่งค้าง 2000 มิลลิลิตรเหมือนเดิม และได้รับการใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้ (Retain Foley’s catheter) วันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้ารีบปรึกษาศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ เพื่อหาทางแก้ไขภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบก่อนผ่าตัด เมื่อกลับจากพบศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ ก็มีคำแนะนำแนบท้ายมาว่า ‘ขอให้ตัดมดลูกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้’ ข้าพเจ้าจึงผ่าตัดให้คุณสุพรรณีในอีก 2 วันถัดจากนั้น

ที่ห้องผ่าตัด ข้าพเจ้าได้ทำการผ่าตัดมดลูกและรังไข่ทั้งสองข้างให้กับคุณสุพรรณีผ่านทางกล้อง (Total laparoscopic hysterectomy) การผ่าตัดเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่ยุ่งยากอะไร มดลูกของคนไข้มีขนาดเท่าอายุครรภ์ 10 - 12 สัปดาห์หรือเท่ากับเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 - 10 เซนติเมตร น้ำหนักของก้อนเนื้องอก เท่ากับ 400 กรัม เป็นเนื้องอกธรรมดา (Adenomyosis) ไม่ใช่มะเร็งของมดลูก

ข้าพเจ้าได้ให้คุณสุพรรณีคาสายสวนปัสสาวะหลังผ่าตัด 4 วัน จึงอนุญาตให้ถอดออกได้ โดยทดสอบกระเพาะปัสสาวะหลังถอดสายสวนด้วยว่า ‘ยังมีปัสสาวะเหลือค้าง หลังถ่ายสุดเท่าไหร่ (Retention of urine) หากมีปริมาณมากกว่า 150 ซี.ซี. ก็ให้ใส่สายสวนปัสสาวะต่อ’ ซึ่ง..ก็ไม่มีปัญหาอะไร คุณสุพรรณีสามารถปัสสาวะได้เอง โดยไม่มีปัสสาวะเหลือค้างเหมือนเดิม คุณสุพรรณีได้มาตรวจภายในหลังผ่าตัด 2 และ 4 สัปดาห์ ก็ไม่พบมีปัญหาอะไร คุณสุพรรณีมีความสุขมากหลังจากนั้น ปากก็พร่ำพูดถึงคุณความดีของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเข้าใจเธอดี เพราะความเจ็บปวดจากการฉี่ไม่ออกนั้น มันมากมาย จนยากจะบรรยาย และความที่เป็นเช่นนั้นอยู่หลายวัน ทำให้เธอมีความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

ผู้หญิงกับปัญหาฉี่ไม่ออกนั้น มีมากมายหลายสาเหตุ หากคุณหมอให้การวินิจฉัยผิดพลาด ก็อาจรักษาไม่หาย.... ดังนั้น ทางที่ดี คุณผู้หญิงทั้งหลาย เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะ ‘ฉี่ไม่ออก’ ควรปรึกษาแพทย์ เพราะคุณอาจไม่เป็นเพียงแค่ทางเดินปัสสาวะอักเสบเท่านั้น ดังกรณีของคุณสุพรรณี หรือคุณยายสุภัทรา โลกนี้ มีสิ่งที่สวยงาม ละลานตามากมาย จงอย่าให้โรคธรรมดาๆ อาทิ ภาวะ‘ฉี่ไม่ออก’ มาทำลายความสวยงามเหล่านี้เลย

พ.ต.อ. นพ. เสรี ธีรพงษ์ ผู้เขียน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น