วิธีการรักษารังเเคที่ดีที่สุด
คำว่ารังแค อาจจะเป็นปัญหาในอันดับต้นๆ ที่เกิดกับศรีษะ และเส้นผม ซึ่งหลายคนที่เป็นรังแคนั้น อาจเกิดความวิตกกังวลว่า ที่มีอาการเกิดรังแคเพราะสุขภาพเส้นผมไม่ดี ซึ่งอาจจะทำให้ดูเสียบุคคลิกไปเลยก็ได้ เพราะเวลาไปไหนมาไหน ต้องมานั่งกังวล ปัดซ้ายปัดขวากันคนอื่นเห็นรังแคกันให้วุ่นวาย บางครั้งอาจเสียหน้าหากมีคนเห็น ซึ่งพอจะมีเกร็ดความรู้ถึงสาเหตุของการเกิดรังแค และวิธีการรักษาอย่างง่าย ๆ มาฝาก
เริ่มต้นด้วย งดการใช้น้ำอุ่นสระผม จะเป็นการเพิ่มปริมาณรังแค เพราะทั่วไปนั้นการสระผมด้วยน้ำอุ่นจะไปละลายชั้นไขมันบนหนังศีรษะออก ส่งผลให้หนังศีรษะแห้งและลอกเป็นขุย เกิดรังแคในที่สุด จึงควรเลิกสระผมด้วยน้ำอุ่น
แสงแดดจัดๆ เป็นตัวการทำลายเส้นผม ทำให้เส้นผมชี้ฟู ขาดน้ำหนัก และไม่เงางาม แสงแดดจะเข้าไปทำลายโปรตีนในเส้นผม และทำให้ผมหยาบ จึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดด และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูที่ช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก
หลีกเลี่ยงควันบุหรี่จากสิงห์อมควันทั้งหลาย เพราะควันบุหรี่จะเกาะบนเส้นผมทำให้ผมขาดความมันเงา และส่งผลให้สภาพศีรษะแห้งกว่าปกติ ไม่เพียงแต่ควันบุหรี่เท่านั้น ควันอื่นๆ ก็ไม่ควรจะให้โดนเส้นผมมากๆ เช่นกัน
ควรมีการนวดบำบัดเพื่อขจัดรังแคบ่อยๆ ทุกครั้งที่สระผม ควรนวดหนังศีรษะเบาๆ จะช่วยผ่อนคลายความเครียด และขจัดเซลล์หนังศีรษะที่ตายให้หลุดลอกได้ง่ายขึ้น?
ควรเลือกแชมพูที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ และควรล้างแชมพูให้สะอาดทุกครั้งหลังสระผมเพื่อขจัดสารเคมีที่ตกค้าง
โดย พ.ญ.ภาวาส เทียมเศวต ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงด้านหนังศีรษะและเส้นผม กล่าวว่า การกำจัดรังแคทำได้ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงใช้ยาสระผมที่ช่วยขจัดรังแคอย่างสม่ำเสมอ หลังสระผมควรใช้ผ้าขนหนูที่แห้งสะอาดซับหนังศีรษะและเส้นผม ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าที่เปียกชื้นและไม่ใช้ผ้าร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการเกาที่ทำให้หนังศีรษะเกิดแผลอักเสบ
นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่มีธาตุสังกะสี วิตามินบี ซีและอี อยู่เสมอ เพื่อบำรุงหนังศีรษะ วิธีเหล่านี้เป็นการรักษาปัญหารังแคเบื้องต้น หากมีปัญหาควรรับการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ เท่านี้ปัญหารังแคก้จะไม่มารบกวนคุณอีกต่อไป
เป็นยังไงบ้าง กับเคล็ดลับในการดูแลเส้นผมและหนังศรีษะ เพื่อลดปัญหารังแคของสาวๆ ทั้งหลาย เคล็ดลับนี้ใช้ได้กับทุกคนเลยทีเดียวไม่เว้นแม้แต่ท่านสุภาพบุรุษที่มีปัญหาในเรื่องหนังศรีษะ
ที่มา : beautyvwander.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น