บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ท้องเสียเกิดจากอะไรเเละวิธีการรักษาอย่างถูกต้อง


ท้องเสียเกิดจากอะไรเเละวิธีการรักษาอย่างถูกต้อง

     ท้องเสีย (diarrhea) เป็นอาการขับถ่ายอุจจาระออกมามีลักษณะเหลวปนนํ้า หรือถ่ายเป็นนํ้า และมักจะถ่ายบ่อยครั้ง เด็กที่ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำมากกว่า 6 – 8 ครั้งต่อวันนั้นแสดงว่าท้องเสีย แต่บางครั้งอาจเป็นการยากที่จะบอกว่าเด็กท้องเสียหรือไม่ เนื่องจากอุจจาระของเด็กตามปกติจะมีลักษณะเหลว ดังนั้นถ้าเด็กขับถ่ายบ่อยมากครั้งกว่าปกติ และอุจจาระมีลักษณะเหลวเป็นน้ำ ให้สงสัยว่าอาจมีอาการท้องเสีย ตามนิยาม และความหมายขององค์การอนามัยโลก โรคท้องเสีย หรือโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน หมายถึง การถ่ายอุจจาระเหลวหรือมีน้ำมากกว่าปกติ 3 ครั้ง หรือถ่ายเป็นน้ำ 1 ครั้ง หรือถ่ายมีมูกเลือด 1 ครั้ง ในเวลา 1 วัน

         กรณีเช่นนี้ถือว่าเป็นโรคท้องเสีย ซึ่งจะต้องทำการรักษาให้ถูกวิธี อย่างไรก็ตามความหมายของท้องเสียที่ระบุโดยจำนวนครั้งของการถ่ายอาจแตกต่างไปจากนี้ในผู้ป่วยบางราย โดยขึ้นอยู่กับลักษณะและความถี่ของการขับถ่ายในสภาวะปกติของแต่ละคน สำหรับเด็กเล็กที่ดื่มนมแม่อาจถ่ายอุจจาระเหลวๆ บ่อยครั้งได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าถ่ายเป็นน้ำจำนวนมากและบ่อยครั้งกว่าที่เคยเป็นแสดงว่าเกิดอาการท้องเสียโดยคำจำกัดความนั้น ’ท้องเสีย’ คือการที่ร่างกายมีการถ่ายอุจจาระบ่อยกว่าปกติ โดยที่ลักษณะอุจจาระนั้น จะมีปริมาณมากและมีส่วนประกอบเป็นน้ำมากกว่าปรกติ ดังนั้นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดเมื่อเกิดอาการท้องเสียคือ การที่ร่างกายเกิดสภาวะขาดน้ำและเกลือแร่  สาเหตุ ท้องเสียแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

ประเภทแรก คือ อาการท้องเสียเนื่องจากได้รับสารพิษจากเชื้อประเภทที่สอง คือ อาการท้องเสียเนื่องจากการติดเชื้อส่วนอาการท้องเสียประเภทสุดท้าย ได้แก่ ท้องเสียธรรมดาซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหรือสารพิษจากเชื้อ อาการท้องเสียทั้งสามประเภทนี้จะมีลักษณะอาการ วิธีการรักษา และการปฏิบัติตนที่แตกต่างกันซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรจะทราบเนื่องจากถ้าปฏิบัติตนไม่ถูกต้องแล้วอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้  

   ถ้าเป็นการท้องเสียจากการได้รับสารพิษจากเชื้อ มักจะเกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษที่มาจากเชื้อโรคเข้าไป ผู้ป่วยมักจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและถ่ายเหลวหลังจากรับประทานอาหารประมาณ 2-4 ชั่วโมงเรียกว่ากินเข้าไปไม่นานก็มีอาการแล้ว แต่มักจะไม่มีไข้สำหรับการท้องเสียเนื่องจากการติดเชื้อนั้นผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือมีไข้ร่วมกับการถ่ายเหลวซึ่งลักษณะของอุจจาระจะแปลกไปจากท้องเสียทั่วไป เช่น ถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือด

           บางรายอุจจาระจะคล้ายน้ำซาวข้าวและถ่ายพุ่ง หรือบางรายอาจถ่ายออกมามีกลิ่นเหม็นผิดปกติ เช่น เหม็นเหมือนหัวกุ้งเน่า เป็นต้น แต่ถ้ามีอาการท้องเสียเพียงแค่ถ่ายเป็นน้ำ ไม่มีอาการดังที่กล่าวไว้ในการท้องเสียสองประเภทแรกก็จะเป็นการท้องเสียธรรมดา      ท้องเสียในเด็กทารก และเด็กโตอาจมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโรตา (Rotavirus) ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดท้องเสียในเด็ก อาการท้องเสียที่เกิดจากเชื้อไวรัส อาจเกิดจากเชื้อที่ทำให้เป็นไข้หวัด ต่อมาเคลื่อนลงกระเพาะลำไส้ ก็กลายเป็นหวัดในกระเพาะลำไส้ ซึ่งทำให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารผิดไปจากปกติ ไม่สามารถย่อยอาหารได้ เกิดอาการอาเจียนและท้องเสีย  การวินิจฉัย    

  จะเห็นได้ว่า โรคต่างๆที่กล่าวมาแล้วล้วนทำให้ท้องเสียทั้งสิ้น เราไม่สามารถวินิจฉัยว่า อาการท้องเสียเกิดจากอะไร หากเราไม่ได้ทำการตรวจอุจจาระทางห้องทดลอง เมื่อเราไม่รู้สาเหตุ

      การรักษาก็จะได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร เพราะการรักษาแต่ละโรคนั้น จะต้องมีการให้ยาตามสาเหตุของโรคท้องเสียอาจใช้เวลา 3 – 7 วัน กว่าอาการท้องเสียจะหายขาดแล้วเป็นปกติตามเดิม ช่วงที่เด็กถ่ายอุจจาระมากไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเท่าไหร่ สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ เด็กต้องได้รับน้ำอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการขาดน้ำขั้นรุนแรงอันตรายจากท้องเสีย   

   อันตรายจากท้องเสียที่สำคัญที่สุด คือ การที่ร่างกายเสียสารน้ำและเกลือแร่ ซึ่งมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน ในกรณีที่การเสียสารน้ำและเกลือแร่อยู่ในขั้นรุนแรงจะเป็นอันตรายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าได้รับการแก้ไขไม่ทันท่วงที    

  ถ้ายังมีอาการท้องเสียไม่หยุด มีอาการไข้ร่วมด้วย และเด็กอายุน้อยกว่า 2 เดือน ควรไปพบแพทย์ทันที ถ้าเด็กอายุมากกว่า 2 เดือน มีไข้ และท้องร่วงมากกว่า 1 วัน ให้วัดอุณหภูมิร่างกาย และตรวจปริมาณของปัสสาวะ จากนั้นให้ขอคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ
         สำหรับเด็กทุกช่วงอายุ ถ้าท้องเสียแล้วพบว่ามีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยดังแสดงข้างล่างนี้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที มีเลือดปนมา มีมูกเลือดปนมา ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำมีอาการขาดน้ำมีไข้นานมากกว่า 24–48 ชั่วโมงอาเจียนติดต่อกันนานมากกว่า 12–24 ชั่วโมงอาเจียนเป็นสีเขียว มีเลือดปน และอาจพบว่ามีกากเหมือนกาแฟช่องท้องบวม หรือ ร้องปวดท้องหลายครั้งปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำมีผื่นขึ้นตามร่างกายตัวเหลืองและตาเหลือง  การรักษา

            ถ้าเริ่มมีอาการใน 4-6 ชั่วโมงแรก อาจซื้อผงเกลือแร่สำเร็จรูปจากร้านขายยามาลองรับประทานดูก่อน หรืออาจจะเตรียมเองที่บ้านก็ได้ โดยใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 12 ช้อนชา เติมน้ำสะอาด 1 ขวดกลม การรักษาที่สำคัญและจำเป็นที่สุดคือการได้รับน้ำ และเกลือแร่ทดแทน ในช่วงที่มีอาการท้องเสียควรรับประทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลว เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ไม่ควรงดรับประทานอาหารเพราะจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง     

 ถ้าเป็นไม่มาก หลังดื่มน้ำเกลือแร่แล้วผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้น แต่ถ้าดื่มน้ำเกลือแร่ไม่ได้ ยังคงอาเจียน มีไข้สูง กระหม่อมหนาบุ๋ม เด็กมีในตาลึกโหล หายใจหอบ ปัสสาวะน้อยลง เพราะขาดน้ำอย่างรุนแรง ควรรีบนำเด็กไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะผู้ป่วยอาจเกิดภาวะช็อค และเสียชีวิตได้

         สำหรับยาที่ช่วยให้หยุดถ่ายหรือที่มักจะเรียกกันว่ายาแก้ท้องเสีย เช่น diphenoxylate, loperamide สามารถใช้ได้เฉพาะผู้ที่ท้องเสียธรรมดาเท่านั้น ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่สงสัยว่าเกิดอาการท้องเสียเนื่องจากติดเชื้อ หรือได้รับสารพิษจากเชื้อ เนื่องจากยาที่ทำให้หยุดถ่ายจะทำให้ลำไส้บีบตัวได้น้อยลงทำให้ความถี่ของการถ่ายลดลง และผู้ป่วยอาจคิดว่าอาการดีขึ้น แต่ความจริงแล้วเชื้อหรือสารพิษจากเชื้อจะอยู่ในร่างกายได้นานขึ้นจึงทำให้หายจากอาการท้องเสียได้ช้าลง ดังนั้นหากสงสัยว่าท้องเสียแบบติดเชื้อหรือได้รับสารพิษจากเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อจะได้รับยาฆ่าเชื้อหรือยาดูดซับสารพิษที่เหมาะสม

                หากเด็กเล็กๆหรือผู้สูงอายุเกิดอาการท้องเสียและได้ทำการรักษาเบื้องต้นไปแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น ควรนำส่งแพทย์โดยเร็วและถ้าผู้ป่วยยังรู้สึกตัวและรับประทานได้ควรให้ดื่มน้ำเกลือแร่ในระหว่างทางด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดน้ำอย่างรุนแรง และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ควรงดให้น้ำดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่มีความหวาน เพราะว่าจะทำให้อาการท้องเสียแย่ลงกว่าเดิม

         อาหารที่แนะนำให้บริโภคควรจะมีส่วนผสมของถั่ว เนื้อ ปลา ไข่ ผักต้มสุก กล้วย หรือธัญพืชต้มสุก แนะนำให้เด็กบริโภคอาหารมื้อย่อยๆดีกว่าเป็นมื้อหลักใหญ่  การป้องกัน   

   พบว่า probiotic มีบทบาทในการรักษาภาวะท้องเสีย โดยสามารถลดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการท้องเสียที่เกิดจากภาวะอาหารเป็นพิษ และได้ผลดีมากในกลุ่มอาการท้องเสียที่เกิดจาก rotavirus นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันและรักษาอาการท้องเสียในนักท่องเที่ยว (travelers diarrhea) ได้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น