บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มะเร็งปากมดลูกมีอาการอย่างไร


มะเร็งปากมดลูกมีอาการอย่างไร

  มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคมะเร็งที่พบมากในเพศหญิงวัย 40 ปีขึ้นไป หากประมวลสถิติจากทั่วโลกจะพบว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงติดอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม แต่สำหรับหญิงไทยน่าตกใจกว่า เพราะมะเร็งร้ายชนิดนี้เป็นอันดับแรกของสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทุกชนิดเลยทีเดียว หากแต่ยังมีสาวๆหลายคนที่คิดว่า โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นเรื่องที่ไกลตัว ยังงี้ต้องบอกเลยว่า คิดผิดถนัด

สาเหตุการเกิด มะเร็งปากมดลูกเกิดได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด
     มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (human papilloma virus) ซึ่งติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ เมื่อได้รับเชื้อไวรัส HPV เชื้อชนิดนี้จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงสารพันธุกรรมภายในเซลล์ปากมดลูก จนกลไกการควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ถูกกระตุ้นขึ้น ตามมาด้วยการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์เนื้องอก ซึ่งไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไรก็สามารถเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ทั้งนั้น แต่ที่ส่วนใหญ่พบมะเร็งชนิดนี้ในหญิงสูงอายุ ก็เพราะกว่าเชื้อ HPV จะปรากฏอาการผิดปกติจนกระทั่งนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็ง อาจใช้เวลานานกว่า 5-10 ปี
กลุ่มเสี่ยง หากคุณเข้าข่ายรายละเอียดด้านล่าง รู้ตัวไว้ว่าคุณเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกแล้วล่ะ
  • มีเพศสัมพันธ์ขณะอายุยังน้อย
  • อายุอยู่ในช่วง 30 – 50 ปี
  • มีคู่นอนหลายคน
  • สามีเที่ยวโสเภณี
  • มีประวัติเคยติดโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อซิฟิลิส หนองใน เริม หูดหงอนไก่
  • สูบบุหรี่ หรือมีคู่นอนที่สูบบุหรี่
  • ไม่เคยตรวจภายใน
อาการ จะรู้ได้ยังไงว่าเรากำลังเป็นมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกระยะแรกจะยังไม่ปรากฏอาการใดๆเลย แต่ถ้าเข้าสู่ระยะลุกลาม จะมีอาการตกขาวมีกลิ่น มีลักษณะเป็นหนอง หรือมีลักษณะคล้ายน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด มีเลือดออกทางช่องคลอด ปัสสาวะลำบากหรืออาจปัสสาวะเป็นเลือด นอกจากนี้ ยังอาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ด้วย เช่น ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ ปอด ตับ และกระดูก หรืออาจมีอาการร่างกายซีด อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดประกอบด้วย ดังนั้นเมื่อมีอาการตกขาวผิดปกติ หรือเลือดออกภายหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรปรึกษาแพทย์
วิธีป้องกัน กันไว้ดีกว่าแก้ ก่อนมะเร็งลุกลาม
ในเมื่อเราแทบไม่รู้ตัวเลยหากกำลังมะเร็งระยะแรก สาวๆจึงต้องรู้จักวิธีป้องกันและดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน งดสูบบุหรี่ สังเกตอาการผิดปกติและที่สำคัญก็คือการไปพบแพทย์เพื่อตรวจหามะเร็งปากมดลูกที่เรียกว่า การตรวจแป็ปสเมียร์ (Pap Smear) อย่างน้อยปีละครั้ง โดยสาวๆเวอร์จิ้นควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 30 ปี ส่วนผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วควรตรวจเป็นประจำ
รู้จักกับ แป็ปสเมียร์ วิธีตรวจหาเซลล์มะเร็งที่ช่วยชีวิตคุณได้
แป็ปสเมียร์ (Pap Smear) เป็นการตรวจภายในชนิดหนึ่ง ที่ใช้ไม้พายเล็กๆ ป้ายบริเวณปากมดลูก เพื่อนำเซลล์ไปตรวจหาความผิดปกติในระยะก่อนเป็นมะเร็ง หรือที่เป็นมะเร็งระยะก่อนลุกลาม ใช้เวลาในการตรวจประมาณ 5 นาที โดยเกิดความเจ็บปวดใด แต่เนื่องจากยังมีสาวๆ หลายคนที่อายหมอ จึงมีการเสริมวิธีตรวจที่เรียกว่า VIA (Visual Inspection with Acetic Acid) โดยใช้กรดน้ำส้มสายชูความเข้มข้น 3-5% ป้ายบริเวณปากมดลูกเพื่อดูว่าเนื้อเยื่อปากมดลูกมีความผิดปกติหรือไม่ หากเซลล์ผิดปกติจะเห็นว่าปากมดลูกเป็นฝ้าขาว ซึ่งวิธีนี้ให้ความแม่นยำสูงถึง 70%
รักษามะเร็งปากมดลูก ยิ่งตรวจพบเร็ว รักษารวดเร็ว หนทางหายขาดก็มีสูง
การรักษาความผิดปกติของมะเร็งปากมดลูกระยะแรก สามารถรักษาให้หายได้โดยการผ่าตัด(ซึ่งใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น) หรืออาจใช้เครื่องจี้เย็น เครื่องจี้ไฟฟ้า และการใช้เลเซอร์ ส่วนมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลาม ก็สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด การฉายรังสีและการให้ยาเคมีบำบัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค
    ปัจจุบันในหลายประเทศได้อนุมัติให้จดทะเบียนใช้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก “Gardasil” ที่สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ 70 เปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน แต่จะไม่มีผลใดๆ หากฉีดในขณะที่ติดเชื้อแล้ว คาดว่าในประเทศไทยจะเตรียมวางจำหน่ายวัคซีนนี้ในโรงพยาบาลราวกลางเดือน พ.ค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น